หวยไว จะเล่นให้มีประสิทธิภาพนอกจากจะมีสูตรที่ถูกต้องแล้ว อีกอย่างที่ขาดไม่ได้เด็ดขาดเลย = การเดินเงินหวยไวที่ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ รวมถึงต้องเป็นการเดินเงินที่เหมาะสมกับนิสัยของผู้เดิมพันอีกด้วย
วิธีเดินเงินหวยไวมีอะไรบ้าง?
- การเดินเงินแบบคงที่ (Flat Betting)
- การเดินเงินแบบทบยอด (Martingale)
- การเดินเงินแบบ Fibonacci
- การเดินเงินแบบเปอร์เซ็นต์ (Percentage of Bankroll)
- การเดินเงินแบบคูณ (Multiplier System)
ก่อนเริ่มเดิมพันหวยไวต้องรู้อะไร?
ก่อนจะเริ่มเดิมพันหลายคนอาจบอกว่าต้องรู้กฎกติกา หรือรู้วิธีการเล่น นั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องครับ แต่สำหรับที่นี่เราจะไม่ยึดให้เรื่องเหล่านั้นเป็นเรื่องหลัก
เพราะสิ่งที่ต้องรู้จริงๆ คือ การเลือกเว็บที่เล่นแล้วจะไม่ถูกโกงระหว่างเล่น ต่างหากครับ
ใครไม่ซีเรียสเรื่องโดนโกงล็อกผล หรือมีเว็บที่มั่นใจอยู่แล้วว่าถ้าโดนโกงจะตามเงินคืนกลับมาได้ สามารถข้ามไปอ่านเรื่องการเดินเงินได้เลยครับ ส่วนใครที่ไม่มั่นใจและคิดยังไม่ออกเลยถ้าโดนโกงขึ้นมาจะตามเงินคืนมายังไง ถ้าเขาลบเพื่อนเราทิ้ง ลบยูสเซอร์เราออก จะตามยังไง? ใครคิดไม่ออกต้องอ่านครับ
สำหรับใครไม่อยากโดนโกงต้องตัดปัญหาตั้งแต่ต้นลมครับ โดยการเลือกเว็บที่ถูกต้องไปเลยตั้งแต่แรก สิ่งที่ต้องทำคือ เลือกเว็บที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย โดยมาจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้อย่าง PAGCOR, UKGC หรือ BMM TESTLABS จะเป็นหน่วยงานอื่นๆก็ได้ แต่เน้นย้ำว่าต้องเป็นระดับโลกและสากล
ใครที่ไม่อยากเสียเวลาไปหาเว็บเอง ผมมีแนะนำให้ 1 ที่ = Globalball เว็บพนันถูกกฎหมาย
ที่นี่มีใบอนุญาตทั้ง 3 ตัวที่กล่าวไปด้านบน และมีคนรวยเล่นเยอะมากๆ แถมมีกิจกรรมแจกเงินสดให้ทุกอาทิตย์ยังไงไม่มีทางโกงให้ตัวเองเดือดร้อนแน่นอนครับ ที่สำคัญถึงจะเป็นเว็บต่างประเทศแต่ที่นี่มีภาษาไทยให้ใช้ครับ ต้องกรอกรหัสแนะนำ DW368 ก็จะได้โปรไทยมาเลย
วิธีเดินเงินหวยไวทั้ง 5 แบบ
กลับมาเข้าเนื้อเรื่องหลักของเราได้แล้ว อย่าลืมว่าเลือกจากความชอบและความเหมาะสมกับนิสัยรวมถึงเงินในกระเป๋าของตัวเองนะครับ ทั้ง 5 แบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันขึ้นอยู่ที่ความชอบและเหมาะสมเลย
1. การเดินเงินแบบคงที่ (Flat Betting)
- วิธีการ:
การเดินเงินแบบคงที่คือการกำหนดจำนวนเงินที่ใช้แทงในแต่ละรอบให้เท่ากันทั้งหมด ตัวอย่างเช่น หากคุณมีงบประมาณ 1,000 บาท คุณอาจจะเลือกแทงครั้งละ 50 บาท หรือ 100 บาท โดยไม่เปลี่ยนแปลงจำนวนเงินในทุกครั้ง - ข้อดี:
- ความเสี่ยงต่ำ เพราะไม่เพิ่มหรือลดจำนวนเงินในแต่ละรอบ
- ง่ายต่อการจัดการงบประมาณ
- เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากเสี่ยงมากหรือเป็นมือใหม่
- ตัวอย่าง:
หากคุณมีงบ 1,000 บาท และตั้งเป้าหมายว่าจะแทงหวย 10 งวด โดยจะใช้เงิน 100 บาทในการแทงหวยแต่ละงวด โดยไม่ว่าผลจะออกอย่างไร คุณก็จะแทงเท่ากันทุกงวด
การเดินเงินแบบคงที่ เหมาะสำหรับคนที่มีทุนน้อยและต้องการลดความเสี่ยงในการขาดทุน แต่จะไม่ได้กำไรสูงมากหากถูกรางวัลน้อย
2. การเดินเงินแบบทบยอด (Martingale)
- วิธีการ:
การเดินเงินแบบทบยอดคือการเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าหลังจากที่คุณแพ้ การเดินเงินแบบนี้ทำให้เมื่อคุณชนะ คุณจะได้รับผลกำไรที่คุ้มค่ากับการขาดทุนทั้งหมดจากรอบก่อนหน้า - ข้อดี:
- สามารถคืนทุนที่เสียไปได้ทั้งหมด หากชนะในรอบถัดไป
- สามารถคืนทุนที่เสียไปได้ทั้งหมด หากชนะในรอบถัดไป
- ข้อควรระวัง:
- ความเสี่ยงสูงมาก ถ้าคุณแพ้หลายรอบติดต่อกัน คุณอาจจะต้องใช้เงินทุนจำนวนมากในการทบยอด
- ต้องมีทุนมากพอที่จะรองรับการทบยอด
- ตัวอย่าง:
สมมุติว่าคุณเริ่มต้นด้วยการแทง 100 บาท:- รอบแรก แทง 100 บาท → ถ้าแพ้ ให้แทง 200 บาทในรอบที่สอง
- รอบที่สอง แทง 200 บาท → ถ้าแพ้ ให้แทง 400 บาทในรอบที่สาม
- รอบที่สาม แทง 400 บาท → หากชนะ จะได้กำไร 400 บาท (รวมทุนที่แทงไปก่อนหน้านี้) และคืนทุนทั้งหมด
ข้อควรระวัง: การเดินเงินแบบทบยอดอาจทำให้เงินทุนหมดเร็วถ้าแพ้ติดต่อกันหลายครั้ง ดังนั้น ควรใช้วิธีนี้ในกรณีที่คุณมีทุนพอสมควรและไม่ติดกับการแพ้ในรอบแรกๆ
3. การเดินเงินแบบ Fibonacci
- วิธีการ:
การเดินเงินแบบ Fibonacci เป็นการเพิ่มจำนวนเงินเดิมพันตามลำดับของตัวเลข Fibonacci (1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55…) โดยในกรณีที่แพ้จะให้เพิ่มยอดเดิมพันตามลำดับนี้ และถ้าชนะจะถอยกลับไปสองขั้นตอน - ข้อดี:
- ไม่เสี่ยงสูงเท่าการเดินเงินแบบทบยอด
- สามารถลดความเสี่ยงได้มากขึ้นเมื่อมีการแพ้หลายๆ รอบ
- ข้อควรระวัง:
- อาจจะไม่ได้ผลกำไรเร็วเหมือนกับการทบยอด
- อาจจะไม่ได้ผลกำไรเร็วเหมือนกับการทบยอด
- ตัวอย่าง:
สมมุติว่าคุณเริ่มต้นด้วยการเดิมพัน 1 บาท:- รอบแรก แทง 1 บาท → ถ้าแพ้ ให้แทง 1 บาท (ตามลำดับ Fibonacci)
- รอบที่สอง แทง 1 บาท → ถ้าแพ้ ให้แทง 2 บาท
- รอบที่สาม แทง 2 บาท → ถ้าแพ้ ให้แทง 3 บาท
- รอบที่สี่ แทง 3 บาท → ถ้าชนะ จะได้กำไรและถอยกลับไป 2 ขั้นตอน
การเดินเงินแบบ Fibonacci เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดความเสี่ยงและไม่ต้องการเพิ่มจำนวนเงินเดิมพันมากเกินไปในกรณีที่แพ้หลายครั้ง
4. การเดินเงินแบบเปอร์เซ็นต์ (Percentage of Bankroll)
- วิธีการ:
การเดินเงินแบบเปอร์เซ็นต์คือการกำหนดจำนวนเงินที่จะเดิมพันเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดเงินทุนที่คุณมี เช่น หากคุณมีทุน 1,000 บาท และตั้งไว้ว่าเดิมพัน 5% ของทุน คุณจะเดิมพัน 50 บาทในแต่ละรอบ - ข้อดี:
- ไม่เสี่ยงเกินไป เพราะจะใช้เงินในการเดิมพันตามเปอร์เซ็นต์ของเงินทุน
- เป็นการบริหารความเสี่ยงอย่างมีระเบียบ
- ข้อควรระวัง:
- ถ้ามีทุนเริ่มต้นต่ำ อาจจะทำให้จำนวนเงินเดิมพันน้อยไป
- ถ้ามีทุนเริ่มต้นต่ำ อาจจะทำให้จำนวนเงินเดิมพันน้อยไป
- ตัวอย่าง:
สมมุติว่าคุณมีเงินทุน 1,000 บาท และเลือกเดิมพัน 5%:- รอบแรก แทง 50 บาท → ถ้าแพ้ ให้ลดเงินเดิมพันตามเปอร์เซ็นต์ของทุนที่เหลือ
- รอบสอง แทง 50 บาท (หากยังคงเดิมพันเท่าเดิม) → หากชนะ คุณจะได้กำไรจากการชนะ
การเดินเงินแบบเปอร์เซ็นต์ เป็นวิธีที่ดีในการรักษาความเสี่ยงให้ต่ำและสามารถปรับการเดินเงินตามทุนที่มีได้
5. การเดินเงินแบบคูณ (Multiplier System)
- วิธีการ:
การเดินเงินแบบคูณคือการเพิ่มจำนวนเงินเดิมพันขึ้นทีละน้อยโดยการคูณเงินเดิมพันกับจำนวนที่เพิ่มขึ้น เช่น คูณ 1.5 หรือ 2 เท่าจากยอดเงินเดิมพันเดิมในแต่ละรอบ - ข้อดี:
- ช่วยเพิ่มกำไรได้มากขึ้นหากชนะในหลายๆ รอบ
- ช่วยเพิ่มกำไรได้มากขึ้นหากชนะในหลายๆ รอบ
- ข้อควรระวัง:
- ความเสี่ยงค่อนข้างสูง เพราะการเพิ่มจำนวนเงินเดิมพันอย่างต่อเนื่องอาจทำให้ทุนหมดเร็วถ้าหากแพ้หลายรอบ
- ความเสี่ยงค่อนข้างสูง เพราะการเพิ่มจำนวนเงินเดิมพันอย่างต่อเนื่องอาจทำให้ทุนหมดเร็วถ้าหากแพ้หลายรอบ
- ตัวอย่าง:
สมมุติว่าคุณเริ่มต้นที่ 100 บาท:- รอบแรก แทง 100 บาท → ถ้าแพ้ ให้แทง 150 บาท
- รอบสอง แทง 150 บาท → ถ้าแพ้ ให้แทง 225 บาท (คูณ 1.5)
- รอบสาม แทง 225 บาท → ถ้าชนะ คุณจะได้กำไรจากการคูณ
การเดินเงินแบบคูณ เหมาะสำหรับผู้ที่มีทุนมากและยอมรับความเสี่ยงสูง เพราะถ้าคุณชนะในบางรอบ จะสามารถได้กำไรสูงมากจากการคูณ
สรุป
การเดินเงินหวยมีหลายวิธีที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ตามสไตล์การเล่นและความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้ หากคุณเป็นผู้เล่นมือใหม่ การใช้วิธีที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น การเดินเงินแบบคงที่ หรือ เปอร์เซ็นต์ของ bankroll อาจจะเหมาะสม แต่ถ้าคุณมีทุนพอและพร้อมรับความเสี่ยง การใช้ Martingale หรือ Fibonacci ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ที่สำคัญเลือกตามความชอบและความเหมาะสมกับตัวเอง
Comments are closed